สำนักข่าว Chind Win รายงานเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า สภาที่ปรึกษาเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Consultative Council – NUCC) ซึ่งประกอบด้วยองค์กรฝ่ายประชาธิปไตยหลายกลุ่มในพม่า ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลรัสเซียถึงแผนการที่จะส่งทหารรัสเซียมายังประเทศพม่า โดยอ้างว่า เพื่อสนับสนุนและการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในพม่าในปีหน้านี้
โดยทางกลุ่ม NUCC ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวนี้ เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพในพม่า อีกทั้งถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของพม่าจากชาติอื่น
ทางกลุ่มยังโจมตีว่า ท่าทีของรัสเซียเป็นการสนับสนุนคนผิด ซึ่งก็คือพลเอกมิ้นอ่องหล่าย และสนับสนุนการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายที่ประชาชนไม่ได้เห็นด้วย ทั้งนี้ กองทัพพม่ากำลังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก จากการที่ต้องรับศึกทุกด้านทั้งจากกลุ่มติดอาวุธเดิมที่มีอยู่แล้ว และกลุ่มติดอาวุธที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ โดยสูญเสียพื้นที่ควบคุมไปถึง 1 ใน 3 ของประเทศ
การสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมากนี่เอง ทำให้กองทัพพม่าประกาศบังคับเกณฑ์ทหารใหม่ นอกจากกองทัพพม่าแล้ว กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆก็มีการบังคับเกณฑ์ทหารใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลนี้ และเหตุผลจากความไม่สงบในประเทศ สงคราม เศรษฐกิจที่ย่ำแย่นับตั้งแต่การรัฐประหาร จึงทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากในประเทศต้องหนีออกจากประเทศ และปฏิเสธไม่ได้ว่า จุดหมายปลายทางหลักคือประเทศไทย
อีกด้านหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNOCHA ออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ อาจมีประชาชนในพม่าถึง 19.9 ล้านคนจะเผชิญกับความอดอยาก จากประชากรในพม่าที่มีอยู่ทั้งหมดจำนวน 57 ล้านคน และนับตั้งแต่รัฐประหาร ในประเทศพม่ามีผู้ลี้ภัยสงครามมากถึง 3.5 ล้านคน โดย 1 ใน 3 พบว่าเป็นเด็ก
ภาพจาก TASS Media

